ครัวซอง

ครัวซอง

ไหนๆเราก็อยู่กันในเรื่องของขนมแล้วเกี่ยวกับเบเกอรี่ ดังนั้นเดี๋ยวเราจะมาต่อกันเลยดีกว่าเกี่ยวกับขนมซึ่งต้องบอกว่ามันก็เป็นอีกหนึ่งขนม ที่ทุกคนนั้นเลือกที่จะทานกันหาทานได้ง่ายไม่ว่าจะเป็น Bakery ร้านกาแฟนั่นก็คือ ครัวซอง จัดได้ว่าเป็นขนมที่เราทุกคนน่าจะรู้กันดีว่ามันมีจุดกำเนิดมาจากประเทศฝรั่งเศส แต่จริงๆแล้วต้องบอกก่อนว่าถึงแม้ว่ามันจะเป็นขนมที่อร่อยและเราน่าจะรู้ว่ามันมาจากฝรั่งเศสก็ตาม แต่ความจริงก็คือมันไม่ได้มาจากฝรั่งเศสเดี๋ยวเรามารู้ประวัติไปพร้อมกันเลยดีกว่า เดี๋ยวเรามารู้จักขนมอบที่เรียกว่าครัวซองน้ำก่อนดีกว่า เพราะส่วนผสมในการทำมันมาจากประเทศฝรั่งเศส ซึ่งหมายถึงจันทร์เสี้ยวซึ่งเราจะสังเกตได้ว่าเป็นขนมที่เป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว แต่แท้จริงแล้วต้องบอกก่อนว่ามันมีต้นกำเนิดมาจากไหนกันแน่ หลายคนก็คงจะสงสัยกันแล้ววันนี้เรามีคำตอบมาให้เดี๋ยวไปดูเลย

ประวัติของขนม ครัวซอง

จากที่ทุกคนน่าจะรู้เพราะว่าเราก็น่าจะเคยทานจะมาบ้างเชื่อได้เลยว่าหลายๆ คนนั้นน่าจะรู้ว่าต้นกำเนิดของขนมครัวซองนั้นมาจากประเทศฝรั่งเศสกันทั้งนั้น แต่จริงๆแล้วต้องบอกก่อนว่าต้นกำเนิดที่แท้จริงของขนมครัวซองเลยมันมีต้นกำเนิดมาจากประเทศออสเตรีย ซึ่งต้องบอกเลยว่าประวัติของมันยาวนานมากๆซึ่งนับถอยหลังไปตั้งแต่ทศวรรษที่ 17 หรือตั้งแต่ปี 1683 ในช่วงสงครามโลกซึ่งต้องบอกเลยว่าในขณะนั้น ชาวออสเตรเลียได้มีการทำสงครามกับชาวเติร์ก ซึ่งชาวออสเตรเลียนั้นถูกล้อมเป็นเวลาหลายเดือนและไม่สามารถที่จะออกไปได้ จึงทำให้ทหารของชาวเติร์กนั้นต้องการที่จะขุดอุโมงค์ เพื่อต้องการจะโจมตีในช่วงที่มีการขุดอุโมงค์เกิดได้ยินทหารชาวออสเตรีย บุกรักษากรุงเวียนนาไว้ได้จึงทำให้สามารถขับไล่ชาวเติร์กออกไปได้ และเฉลิมฉลองกันด้วยขนมปังรูปจันทร์เสี้ยว

แต่ต้องบอกก่อนว่ามันก็ยังมีอีกเรื่องราวนึงที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งต้องบอกเลยว่าอีกเรื่องนึงก็คือ เจ้าหญิงมารี อังตัวแนต ค่าเงินประเทศออสเตรเลีย ได้เข้ามาร่วมอภิเษกสมรสกับพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ซึ่งต้องทำให้เจ้าหญิงนั้น ต้องออกจากบ้านเมืองของตนเองมาอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศสดังนั้นเนื่องจากทุกๆสิ่งทุกๆอย่างได้เปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าจะเป็นสภาพแวดล้อมหรือแม้แต่กระทั่งของกิน จึงทำให้ไม่คุ้นเคยกับอะไรเลยจึงทำให้การใช้ชีวิตของเจ้าหญิงนั้นลำบากรักนั้น ด้วยความที่ไม่คุ้นเคยกับอาหารของชาวฝรั่งเศสจึงได้มีการคิดค้นอาหารของประเทศตนเองของเจ้าหญิง ซึ่งเจ้าหญิงนั้นก็ให้พ่อครัวทำขนมครัวซองขึ้นมา ต้องบอกเลยว่ากลับได้ความนิยมและมันก็กลายเป็นขนมที่ได้รับความนิยมมาตลอด ในฝรั่งเศสจนถึงปัจจุบันมึงต้องบอกก่อนว่าประวัติมันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

สำหรับประวัติที่ได้เล่ามานั้นต้องบอกก่อนว่าอย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าต้นกำเนิดมันจะมาจากรูปแบบไหนก็ยังไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนสักเท่าไหร่นัก แต่มันก็เป็นสิ่งที่ระบุเอาไว้และมันก็เป็นเรื่องเล่าถึงแม้ว่า มันจะแตกต่างกันก็ตามหรือแม้ว่าจะมีคนกล่าวเอาไว้ว่าต้นกำเนิด มันอยู่ที่ประเทศออสเตรเลียหรือประเทศฮังการีหรืออาจจะเป็นโรมาเนีย ซึ่งต้องบอกหรือว่าถ้าจะไปหาแหล่งกำเนิดจากที่ใด และเราก็น่าจะไม่จบไม่สิ้นดังนั้นเดี๋ยวเรามาดูกันเลยดีกว่าทำไมมันจึงกลายเป็นขนมยอดฮิต และกลายเป็นขนมที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลกเหมือนในปัจจุบัน ต้องบอกแล้วยอมรับเลยว่ามันเป็นขนมที่อร่อยและหาทานได้ง่ายๆ ในปัจจุบันหลายๆคนรู้ว่ามันเป็นขนมประจำชาติของประเทศฝรั่งเศสนั่นเอง ถึงแม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบเพื่อให้เข้ากับประเทศของตนเองแต่มันก็ยังคงเอกลักษณ์ของครัวซองเอาไว้

เทคนิคในการทำครัวซอง

  1. นม (เย็น) 1 ถ้วย
  2. น้ำร้อน 1/2 ถ้วย
  3. ยีสต์แห้ง 1 ช้อนโต๊ะ
  4. น้ำตาล 1/4 ถ้วย
  5. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 500 กรัม
  6. เกลือ 1 ช้อนชา
  7. เนย 1 ถ้วย + 2 ช้อนโต๊ะแช่แข็งไว้ที่อุณหภูมิห้อง 30 นาที

ขั้นตอนในการทำ

อย่างแรกเลยคุณต้องเทนมและน้ำร้อนลงในถ้วยผสมใส่ยีสใส่น้ำตาลตีให้เข้ากันจนมีฟอง แล้วก็ใส่แป้งใส่เกลือและคุณก็ทำการใช้มือในการผสมให้เข้าด้วยกัน ต้องนวดแป้งให้เข้ากันด้วยมือแล้วเอาถ้วยทาน้ำมันหลังจากที่เรานวดแป้งเสร็จเพื่อเอาไปแช่ตู้เย็น 1 ชั่วโมง จะได้ไม่ติดถ้วยแล้วหลังจากนั้นเมื่อแช่แป้งเสร็จเราก็มาใช้เลยที่เราแช่แข็งเอาไว้มาขูดให้ มันเป็นฝอยมาทำเป็นสี่เหลี่ยมห่อด้วยพลาสติกเอาไปแช่ตู้เย็นให้ มันเย็นให้เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าหลังจากนั้นพอทุกอย่างเตรียมเสร็จแล้ว

แล้วก็นำแป้งขึ้นมานวดให้เป็นสี่เหลี่ยมแล้วก็เอาเนยใส่ไว้ตรงกลาง แล้วก็เอาแป้งที่เรารีดไว้เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้านำมันมาพับละก็ใช้ที่บดแป้งบดไปบดมาบนแป้ง ที่เราทำเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าไว้ซึ่งที่มีเนยอยู่ตรงกลางเราก็หมุนไปหมุนมาสับไปทับมาเรื่อยๆ แล้วเราก็นำมันไปแช่เย็นหลังจากนั้นก็นำ มันมาตัดเป็นสามเหลี่ยมแบ่งให้เท่าๆกันเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าแล้วก็ตัดครึ่งแล้วก็ม้วนตรงกลาง ก็จะกลายเป็นครัวซองแล้วนำไปอบซึ่งขั้นตอนการอบนั้นอาจจะใช้ไฟที่ 222 ร้อยแล้วก็ 180 ไล่ลงมาเรื่อยๆเพราะว่าไม่งั้นแป้งของครัวซองเราจะไม่ด้านนอก